บทความน่ารู้

ทำงานหนักเพื่อความสำเร็จ แต่ทำไมจึงไม่มีความสุข?

          ชีวิตของเราได้พบเจอผู้คนที่หลากหลาย แต่คนที่ติดอยู่ในวังวนของการโหมงานแล้วยังแช่มชื่นได้ทั้งกายใจคงไม่ใช่ประเภทที่พบเห็นได้บ่อย ๆ เพราะจากการค้นพบของงานวิจัย ความทุกข์มักมากับการที่เราให้ค่ากับการประสบความสำเร็จ มากกว่าการให้ค่าความเป็นอิสระนั่นเอง

          Paul Hanel จากมหาวิทยาลัยแห่งบาธได้นำทีมวิจัยศึกษาความแตกต่างของระดับความสุขระหว่างคนสองกลุ่ม กลุ่มแรกจัดให้ความสำเร็จเป็นความสำคัญอันดับต้น ๆ ส่วนกลุ่มที่สองให้ความสำคัญกับความสุขในชีวิตมากกว่า ภายในเวลา 9 วัน ผู้เข้าร่วมการวิจัยทั้ง 200 คนจากประเทศอินเดีย ตุรกี และสหรัฐอเมริกา ได้ทำการตอบคำถามเกี่ยวกับคุณค่าที่ยึดถือ (value) ความพึงพอใจในชีวิต อารมณ์เชิงบวกและเชิงลบ อาการซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความเครียด ความสำเร็จในการเติมเต็มคุณค่าในแต่ละวัน รวมถึงสุขภาวะรายวัน

          นักวิจัยค้นพบว่าการเติมเต็มคุณค่าในชีวิต เกี่ยวพันกับความพึงพอใจในชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ มันคงไม่ใช่ข้อสรุปที่ผิดแผกไปจากการคาดคะเนของหลาย ๆ คนสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังใช้ชีวิตตามคุณค่าที่ตนยึดถือ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกพึงพอใจในชีวิตมากขึ้นไปตาม ๆ กัน และยิ่งรู้สึกพึงพอใจในชีวิตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะถูกกระตุ้นให้ใช้ชีวิตตามคุณค่าที่ตั้งไว้มากเท่านั้น

          แต่สิ่งที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้นคือการค้นพบที่ว่า การทำตามคุณค่าที่ยึดถือเป็นตัวบ่งชี้สุขภาวะที่เพิ่มขึ้นในวันถัดไป และประเภทของคุณค่าก็มีผลเช่นกัน ผู้ที่ยกความสำเร็จให้มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดถูกพบว่ามีระดับความสุขในวันถัดไปที่ต่ำกว่าผู้ที่ยึดถือสุขนิยม (Hedonism) และหรือ ผู้ที่มีทิศทางของตนเอง (Self-direction) สุขนิยมคือการให้คุณค่ากับความสุขสบายและเพลิดเพลินใจ ในขณะที่การมีทิศทางของตนเอง คือการมีอิสระทางความคิดและการกระทำที่เป็นไปตามแนวทางของตนเอง ในทางกลับกัน การให้คุณค่ากับการคล้อยตามผู้อื่น (Conformity) จะสัมพันธ์กับระดับความสุขที่ลดลงในวันถัดไป ในขณะที่การให้คุณค่าความเป็นอิสระทางความคิดและการกระทำอาจเพิ่มอัตราของสุขภาวะ คุณภาพการนอนหลับสนิท และความพึงพอใจในชีวิต มากขึ้นถึง 13 เปอร์เซ็นต์

          นอกจากนี้ สุขภาวะของผู้เข้าร่วมการวิจัยที่ให้เวลากับงานอดิเรกของตนยังเพิ่มพูนอย่างมีนัยสำคัญ ควบคู่ไปกับระดับความเครียดและความวิตกกังวลที่ลดลง

          เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจกำลังแค่นหัวเราะในใจให้กับคำว่าสุขนิยม ที่ดูเพ้อฝันเกินความเป็นจริง คงไม่มีใครที่จะสามารถใช้เวลาในทุก ๆ วันเพื่อไล่ตามความสุขสำราญได้ และการกระทำเช่นนั้นก็อาจดึงเราให้ออกห่างจากเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกคนต้องทำงาน และงานเหล่านั้นก็อาจจะมีความหมายและสะท้อนคุณค่าที่เรายึดมั่นมากกว่าที่เวลาสุขสำราญสะท้อนได้เสียอีก

          อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหากจัดลำดับความสำคัญโดยให้ความสำเร็จอยู่อันดับแรกเพื่อการประสบความสำเร็จในภายภาคหน้า ถึงแม้การมองงานต่าง ๆ ที่ทำเป็นเป้าหมายที่จะต้องไล่ตาม จะไม่ทำให้รู้สึกเติมเต็มได้เท่ากับ การทำสิ่งที่มีคุณค่าต่อใจในแต่ละวัน เพราะการทำงานเพื่อความสำเร็จที่เราผูกเอาไว้กับตัวงานคงไม่ส่งเสริมสุขภาวะมากเท่ากับการทำบางสิ่งเพียงเพราะเรามีความสุขไปกับมัน

          ดังนั้นความสมดุลระหว่างงานและเวลาพักผ่อนหย่อนใจคงไม่ใช่สิ่งที่กำหนดได้ง่าย แต่อย่างน้อยในวันหนึ่ง เมื่อเรานึกวางแผนเกี่ยวกับการใช้เวลาสักชั่วโมงที่เรามี การคิดว่าคุณค่าในชีวิตของเราคืออะไร มันช่วยให้เรามีอิสระ ความสนุกสนาน และทิศทางของตัวเองมากแค่ไหน และเราจะปฏิบัติตามมันโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จจนมากจนเกินไปได้อย่างไร ก็อาจช่วยให้เราสามารถใช้เวลา 1 ชั่วโมงนั้นอย่างคุ้มค่าได้โดยรักษาไว้ซึ่งสุขภาวะที่ดี

 

 

         HR องค์กรใด อยากบอกรักพนักงานแบบเกร๋ๆ เท่ๆ แนว HR ยุคใหม่ ที่ดูเเลแบบนั่งอยู่ในใจพนักงาน ลองติดต่อ Solution ปรึกษานักจิตวิทยาจาก Relationflip : Innovative Mental Healthcare Web Application ที่พร้อมช่วยพนักงานของคุณดีลกับปัญหาและเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่องนะคะ Tel: 099-0026888 #InnovativeMentalHealthcare #MentalHealthcareService #Relationflip

Reference: https://www.psychologytoday.com/intl/blog/friendship-20/202309/overfocusing-on-work-really-does-come-at-a-cost