บทความน่ารู้

5 วิธีเอาชนะความกลัวการล้มเหลวและสมบูรณ์แบบนิยม (Perfectionism)

1. จดจ้องไปยังส่วนที่สนุกของงาน

          การกลัวความล้มเหลวและเอาแต่กังวลเกี่ยวกับงานที่คุณอยากเข้าไปจัดการจะขังคุณให้อยู่ในกรอบความคิดเชิงลบ เพิ่มความเครียดและความกังวลให้สูงขึ้น รวมถึงทำให้คุณมีความสุขน้อยลงอีกด้วย ดังนั้น แทนที่จะนั่งกังวลว่าคุณจะทำสิ่งนั้นให้สมบูรณ์แบบได้อย่างไร หรือคิดว่าคุณกลัวการลงมือทำแล้วล้มเหลวมากแค่ไหน ให้ลองมองหาส่วนที่คุณสนุกสนานในงานนั้น หรือลองมองมันผ่านมุมมองที่แตกต่างกันออกไปเพื่อหลุดจากกรอบเดิม ๆ ที่คุณตีขึ้นมา

 

2. ตัดสินใจให้ได้ แล้วลงมือทำ

          คุณอาจเคยรู้สึกสมองตื้อจนไม่สามารถเริ่มงานได้ ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องเพียงเรื่องเดียว และทั้งที่เวลากำลังเดินหน้าแต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้าในงานเลย สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณที่บอกคุณว่า นี่คือเวลาที่ต้องตัดสินใจเป้าหมายขึ้นมา เช่น “ฉันจะทำงานส่วนนี้ให้สำเร็จภายในวันนี้”

          อีกสิ่งที่สำคัญเท่า ๆ กันคือการยึดมั่นในการตัดสินใจของคุณและลงมือทำตามนั้น การกระทำนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจทั้งในตัวคุณและความสามารถของคุณ แล้วยังช่วยทำให้รู้สึกว่าอำนาจในการควบคุมสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอกแต่อยู่ในมือของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณจะกล้าคิด กล้าลงมือ และกล้าตัดสินใจ ไม่ปล่อยให้คนอื่นหรือสังคมกำหนดและตัดสินใจแทนคุณ

          แทนที่จะปล่อยให้ความสมบูรณ์แบบนิยม (Perfectionism) ทำให้คุณต้องเสียเวลาตัดสินใจว่าจะทำอะไรและทำอย่างไร คุณเพียงต้องปล่อยใจลงมือทำมัน ถึงแม้ว่าคุณจะนึกได้ในภายหลังว่าเป้าหมายนั้นทะเยอทะยานเกินไป หรือแม้คุณจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ก็อย่าได้นึกเสียใจ จงมองว่าการลงมือทำของคุณคือโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนา ในขณะเดียวกัน หากการตัดสินใจของคุณนำไปสู่ผลสำเร็จก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีและควรสานต่อ

          โดยสรุปแล้ว ความรู้สึกที่เลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อปล่อยเวลาไปเสียเปล่ากับการเอาแต่คิดวกวนจนไม่ได้ทำอะไร ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมามักเป็นความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอาจส่งผลเสียกับความภาคภูมิใจในตัวเองในที่สุด เพราะฉะนั้นจงตัดสินใจ แล้วลงมือทำไปโดยไม่ต้องลังเล

 

3. ออกไปข้างนอก อย่ามัวแต่อุดอู้อยู่ข้างใน

          นอกจากการออกกำลังกายจะทำให้มีความสุขและรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มันยังสามารถส่งเสริมให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมสุขภาวะของคุณให้ดียิ่งขึ้น คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกกีฬาที่จริงจังก็ได้ เพราะงานวิจัยได้ค้นพบว่าเพียงแค่ออกไปเดินเล่นข้างนอกหรือออกไปสัมผัสธรรมชาติก็สามารถเพิ่มความสามารถในการคิดสร้างสรรค์และแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายเพียงหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ก็สามารถช่วยทุเลาอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย

 

4. สมบูรณ์แบบนิยมหรือผัดวันประกันพรุ่ง? ลองใช้ Pomodoro technique ดู

          Pomodoro technique คือเทคนิคการจับเวลาซึ่งถูกคิดค้นโดย Francesco Cirillo ชาวอิตาลี ซึ่งเป็นเทคนิคที่แบ่งงานออกเป็นสเต็ปย่อย ๆ และใช้เวลา 25 นาทีในแต่ละสเต็ป ทุกครั้งที่ครบ 25 นาทีก็จะได้พัก 5 นาที และทุกครั้งที่ทำเสร็จ 4 สเต็ปก็จะได้พัก 15 นาทีหรือมากกว่านั้นตามสมควร ดังนี้:

          1. สเต็ปที่ 1 (25 นาที)

          2. พัก 5 นาที

          3. สเต็ปที่ 2 (25 นาที)

          4. พัก 5 นาที

          5. สเต็ปที่ 3 (25 นาที)

          6. พัก 5 นาที

          7. สเต็ปที่ 4 (25 นาที)

          8. พัก 15 นาที

เมื่อคุณเริ่มคุ้นชินกับเทคนิคนี้ ลองเพิ่มเวลาในแต่ละสเต็ปดู เช่น 30 นาทีต่อสเต็ป เป็นต้น

 

5. นั่งสมาธิ

          แทนที่จะจดจ้องอยู่กับโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ระหว่างช่วงพักในที่ทำงาน ลองเปลี่ยนมานั่งสมาธิดู การนั่งสมาธิสามารถช่วยเติมเต็มแรงใจในการทำงาน ทำให้คุณสงบสุขใจ แล้วยังช่วยทำให้คุณคิดได้กระจ่างมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนั่งสมาธิยังถูกค้นพบว่ามีส่วนช่วยในการลดความวิตกกังวลและความเครียด และยังสามารถเปลี่ยนโครงสร้างของสมองได้ถ้าปฏิบัติเป็นประจำ

 

 

         HR องค์กรใด อยากบอกรักพนักงานแบบเกร๋ๆ เท่ๆ แนว HR ยุคใหม่ ที่ดูเเลแบบนั่งอยู่ในใจพนักงาน ลองติดต่อ Solution ปรึกษานักจิตวิทยาจาก Relationflip : Innovative Mental Healthcare Web Application ที่พร้อมช่วยพนักงานของคุณดีลกับปัญหาและเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่องนะคะ Tel: 099-0026888 #InnovativeMentalHealthcare #MentalHealthcareService #Relationflip

Reference: https://www.psychologytoday.com/intl/blog/the-athletes-way/201801/five-ways-overcome-fear-failure-and-perfectionism