บทความน่ารู้
5 วิธีรับมือกับคนที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่เสมอ
การรับมือกับคนใกล้ตัวที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่สามารถหลีกหนีจากการพบเจอพวกเขาได้ อย่างเช่นญาติที่เอาแต่ยกยอความคิดของตัวเองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งที่คุณรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นความคิดที่ผิด แต่เมื่อคุณช่วยแก้ไขก็โกรธขึ้นมาแล้วสั่งสอนคุณต่อหน้าทุกคนว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร หรือตอนที่คุณคิดอยากจะเปลี่ยนทรงผม ญาติคนนั้นก็เอาแต่บอกว่าคุณจะต้องตัดผมสั้นทั้งที่คุณอยากจะไว้ผมยาว และเขาก็ยังอธิบายเหตุผลของตัวเองอย่างละเอียดและยืดยาวว่าทำไมคุณจึงควรทำตามความคิดเห็นของเขา เรื่องราวนี้คงทำให้คุณคิดสงสัยขึ้นมาว่า คุณควรจะจัดการสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรโดยไม่อารมณ์เสียใส่อีกฝ่ายแต่ก็ยังรักษาจุดยืนของตัวเองเอาไว้ได้
งานวิจัยเกี่ยวกับความฉลาดทางอารมณ์และโรคบุคลิกภาพแปรปรวนค้นพบว่า ผู้ที่มีคุณลักษณะบางประการมีแนวโน้มที่จะขาดการตระหนักรู้ระหว่างบุคคลที่จำเป็นต่อการควบคุมพฤติกรรมอยากควบคุมที่ทำให้ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดย Marta Krajniak และทีมวิจัยได้รวบรวมนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 1 เพื่อทำการทดลองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาการของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนและความฉลาดทางอารมณ์ จุดมุ่งหมายของการทดลองนี้คือการตรวจสอบปัจจัยด้านบุคลิกภาพที่ชี้วัดความสามารถในการปรับตัวในมหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่างานวิจัยนี้จะศึกษาการปรับตัวของนักศึกษาเป็นหลัก แต่ผลวิจัยก็ได้ชี้ให้เห็นถึงข้อมูลสำคัญที่ว่า ผู้ที่พยายามควบคุมผู้อื่นด้วยมุมมองของตัวเองสามารถสร้างความลำบากให้ในชีวิตของทุกคน รวมถึงตัวของเขาเองด้วย
ทีมวิจัยได้ใช้มาตรวัดมาตรฐานเพื่อทำการประเมินความฉลาดทางอารมณ์ในฐานะของคุณลักษณะหรืออุปนิสัยที่มีมาอย่างยาวนาน พวกเขาได้ให้คำนิยามความฉลาดทางอารมณ์ว่าเป็นความสามารถของบุคคลในการประสบ เอาใจใส่ เข้าใจ ควบคุม และให้เหตุผลเกี่ยวกับข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อตัวเองและผู้อื่น หรือกล่าวคือ ผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงจะสามารถปรับพฤติกรรมของตนเองให้เข้ากับผู้ที่ปฏิสัมพันธ์ด้วย ไม่ใช่เอาแต่ดื้อดึงที่จะไปตามทางของตัวเอง จากกรณีตัวอย่าง ญาติของคุณจะถือว่าเป็นผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำเพราะไม่สามารถยอมรับและเคารพในมุมมองของคุณ
นักวิจัยยังได้เสนอว่านักศึกษาที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเข้ากับมหาวิทยาลัยได้ดี อย่างไรก็ตาม หากมีโรคบุคลิกภาพแปรปรวนก็อาจเข้ามาเป็นอุปสรรคได้ ผลวิจัยได้เผยว่าผู้ที่มีโรคบุคลิกภาพแปรปรวนมักจะไม่ยืดหยุ่นในการตีความและตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ถ้าหากพวกเขามีความฉลาดทางอารมณ์สูงก็อาจจะก้าวข้ามความท้าทายที่เกิดขึ้นจากบุคลิกภาพของตัวเองได้นั่นเอง
คุณอาจกำลังคิดว่าการมีโรคบุคลิกภาพแปรปรวนจะขัดขวางความไวต่อความรู้สึกของผู้อื่น แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็อาจมีความสามารถสูงในการรู้สึกถึงแรงจูงใจและความรู้สึกของผู้ที่พยายามจะใช้ประโยชน์จากตัวเอง ซึ่งผลวิจัยได้ยืนยันว่าความฉลาดทางอารมณ์ไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างโรคบุคลิกภาพแปรปรวนและผลการปรับตัวเข้ากับมหาวิทยาลัย แม้ผลจะแตกต่างกันไปตามชนิดของโรคและปัจจัยเฉพาะด้านความฉลาดทางอารมณ์ แต่โดยรวมแล้ว ผลวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่มีคุณลักษณะของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนสูงจะมีความฉลาดทางอารมณ์ที่ต่ำกว่า
ย้อนกลับมาที่คำถามเกี่ยวกับการรับมือกับผู้ที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่เสมอ และแสดงความมั่นใจในเรื่องนั้นออกมาอย่างชัดเจน ผลวิจัยได้เผยว่าความฉลาดทางอารมณ์ระดับต่ำอาจมีความเกี่ยวข้องกับโรคบุคลิกภาพแปรปรวนชนิดใดชนิดหนึ่ง ดังนั้น การเอาตัวเข้าไปพัวพันกับการถกเถียงที่ไม่สิ้นสุดจะกลายเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย
ดังนั้น เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยคุณควบคุมอารมณ์ของตัวเองเมื่อพบเจอกับผู้ที่มีลักษณะนิสัยประเภทนี้:
1. อย่าพยายามที่จะวินิจฉัยโรคบุคลิกภาพแปรปรวนของคนผู้นั้นมากเกินไป
คุณอาจเชื่อว่ามีเพียงคนหลงตัวเองเท่านั้นที่จะมองโลกจากแค่มุมมองของตัวเอง ดังนั้นผู้ที่มีนิสัยชอบต่อล้อต่อเถียงจะต้องมีคุณลักษณะเห็นแก่ตัวเช่นนั้นแน่นอน แม้มันอาจจะเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้ แต่ในเมื่อไม่มีความสัมพันธ์ใดที่สมบูรณ์แบบ มันก็มีแนวโน้มที่คนผู้นั้นจะไม่ได้เป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนเช่นกัน
2. ทำความเข้าใจว่าพฤติกรรมของบุคคลนั้นมีรากฐานจากความฉลาดทางอารมณ์ระดับต่ำ
การเข้าใจบทบาทของความฉลาดทางอารมณ์ในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นก้าวแรกในการรับมือกับผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ระดับต่ำ เพราะมันจะทำให้คุณเห็นว่าคุณอาจต้องบอกความคิดเห็นของตัวเองให้ชัดเจนมากกว่าตอนที่คุยกับผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูง (หรืออาจจะต้องชัดเจนกว่าที่คุณต้องการ) เพื่อที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร
3. อย่าของขึ้น
แน่นอนว่าการต้องปกป้องความคิดของตัวเองจากการคัดค้านที่ไม่หยุดหย่อนเป็นเรื่องที่ชวนให้โมโหเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หากคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณมีความฉลาดทางอารมณ์ระดับสูงโดยการควบคุมการตอบสนองของตัวเอง คุณก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับอีกฝ่ายได้
4. มองไปในกระจกก่อนที่จะตัดสินว่าผู้อื่นเป็นฝ่ายผิด
ผู้ที่พยายามจะทำให้เห็นว่าตัวเขาเป็นฝ่ายถูกและคุณเป็นฝ่ายผิดจะกระตุ้นความรู้สึกต่อต้านในตัวคุณได้เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นไปได้ที่จะมีความจริงแทรกอยู่ในคำพูดของเขา ดังนั้นอย่าลืมลองพิจารณาว่า บางทีอาจจะเป็นคุณเองที่ต้องเปลี่ยนแปลง
5. เปิดโอกาสให้การสื่อสารอย่างชาญฉลาดเสมอ
การอยู่กับคนที่พยายามทำให้คุณรู้สึกว่าคุณไม่ดีพอไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกสักเท่าไหร่ ดังนั้นคุณอาจจะตัดสินใจออกห่างจากคนผู้นั้นโดยสิ้นเชิง แต่ในกรณีที่คุณไม่มีทางเลือกนั้นด้วยความสัมพันธ์ที่แนบชิด ลองพยายามหาข้อตกลงร่วมกันดู เพราะอาจจะเป็นไปได้ที่คุณจะเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูดมากกว่าที่คุณคิดเสียอีก
ผู้ที่คิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่เสมอและไม่ลังเลที่จะแสดงความมั่นใจนั้นสามารถเป็นความท้าทายในความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่การเรียนรู้ที่จะรับมือกับคนเหล่าก็นั้นสามารถช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และเพิ่มความรู้สึกเติมเต็มให้คุณได้เช่นกัน
HR องค์กรใด อยากบอกรักพนักงานแบบเกร๋ๆ เท่ๆ แนว HR ยุคใหม่ ที่ดูเเลแบบนั่งอยู่ในใจพนักงาน ลองติดต่อ Solution ปรึกษานักจิตวิทยาจาก Relationflip : Innovative Mental Healthcare Web Application ที่พร้อมช่วยพนักงานของคุณดีลกับปัญหาและเป็นที่ปรึกษาในทุกๆ เรื่องนะคะ Tel: 099-0026888 #InnovativeMentalHealthcare #MentalHealthcareService #Relationflip